บทที่
2
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างความรับผิดทางอาญา
โครงสร้างความรับผิดทางอาญา หรือ Structure of Crime
มีความสำคัญในการวินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของบุคคล
ซึ่งต้องพิจารณาความรับผิดของบุคคลนั้นอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งเราเรียกขั้นตอนนี้ว่า
“โครงสร้างความรับผิดทางอาญา” เมื่อเราพิจารณาไปตามโครงสร้างนี้แล้ว
เราจะสามารถวินิจฉัยได้ว่าบุคคลนั้น ๆ จะมีความผิดทางอาญาหรือไม่
และต้องรับโทษทางอาญาหรือไม่
1. โครงสร้างความรับผิดทางอาญาของต่างประเทศ
โครงสร้างความรับผิดทางอาญาของแต่ละประเทศย่อมมีความแตกต่างกันไปตามแนวความคิดและกฎหมายอาญาของประเทศนั้น
ซึ่งแยกโครงสร้างความรับผิดทางอาญาตามระบบกฎหมายได้ 2 ระบบ คือ
โครงสร้างความรับผิดทางอาญาของระบบคอมมอนลอว์ (Common Law)
และโครงสร้างความรับผิดทางอาญาของระบบวิวิวลอว์ (Civil Law)
ซึ่งโครงสร้างความรับผิดทางอาญาของแต่ละระบบก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้างตามแนวความคิดและพัฒนาการทางกฎหมายที่แตกต่างกัน[1]
ซึ่งพิจารณาได้ดังต่อไปนี้
1.1
โครงสร้างความรับผิดทางอาญาของระบบคอมมอนลอว์
(Common Law)
การที่จะวินิจฉัยความรับผิดทางอาญาตามกฎหมายอาญาคอมมอนลอว์นั้น
ก่อนอื่นต้องพิจารณาเสียก่อนว่าการกระทำนั้นครบองค์ประกอบความผิดหรือไม่ (Element of Crime) โดยพิจารณาไปทีละส่วน
คือ พิจารณาจากส่วนที่อยู่ภายนอก
เสร็จแล้วจึงค่อยไปพิจารณาส่วนที่อยู่ภายในของผู้กระทำผิด
โครงสร้างความรับผิดทางอาญาตามกฎหมายคอมมอนลอว์ ซึ่งประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายนี้
เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ได้วางโครงสร้างความรับผิดทางอาญาออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่เป็นการกระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือ Actus Reus และส่วนที่เป็นเจตนาร้ายหรือจิตใจที่ชั่วร้าย
หรือ Mens Rea ซึ่งอยู่ภายในจิตใจของผู้กระทำ[2]
1) ส่วนที่เป็นการกระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย
(Actus Reus) หรือ Criminal
Act[3] หมายถึง การกระทำในสิ่งที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด
จุดเริ่มต้นของการพิจารณาความรับผิด คือ
จะต้องมีการกระทำเพราะกฎหมายอาญามุ่งลงโทษสิ่งที่เป็นการกระทำจะไม่ลงโทษสิ่งที่เป็นความคิด
ส่วนที่เป็นการกระทำ (Actus) ตรงกับคำว่า Act
หมายถึง การกระทำส่วน Reus ตรงกับคำว่า Wrong
หมายถึง ความผิดการกระทำตามกฎหมายคอมมอนลอว์ประกอบด้วยสาระสำคัญ 3
ประการ คือ
1) อิริยาบท
2) พฤติการณ์ประกอบอิริยาบท และ
3)
ผลของอิริยาบทและพฤติการณ์ประกอบอิริยาบทนั้น
ส่วนที่เรียกว่าความผิด (Reus)
เป็นการพิจารณาว่าการกระทำนั้นมีกฎหมายบัญญัติว่าเป็น “ความผิด” หรือไม่
ซึ่งในที่นี้จะต้องพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ถ้าหากไม่มีกฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิด ก็ถือว่าขาดองค์ประกอบของความผิด
การพิจารณาส่วนนี้เรียกว่า Reus
2) เจตนาร้าย (Mens Rea) หรือ Criminal
Intent คือสิ่งที่บ่งบอกสภาวะที่แท้จริงของจิตใจอันเกี่ยวกับจิตใจที่ชั่วร้าย
(evil mind) ของผู้กระทำ[4]
นอกจากนี้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ คำว่า เจตนาร้าย หมายความครอบคลุมทั้งส่วนที่เป็น
การกระทำโดยเจตนา (intention)
และส่วนที่เป็นการกระทำโดยประมาทโดยรู้ตัว (Recklessness)
อีกด้วย ซึ่งความเห็นของนักกฎหมายที่เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันเห็นว่า เจตนาร้าย
(mens rea)
มีอยู่ในส่วนของการกระทำโดยเจตนาและการกระทำประมาทโดยรู้ตัว (recklessness) ส่วนกรณีการประมาทธรรมดา (negligence)
ยังมีข้อโต้เถียงกันว่าจะถือว่าผู้กระทำมีเจตนาร้าย (mens rea) หรือไม่
ประมาทโดยรู้ตัว (recklessness) คือการที่ผู้กระทำรู้ถึงสาเหตุที่อาจทำให้เกิดผลร้าย
แต่ก็มิได้นำพา ละเลย ไม่ใส่ใจ อันเป็นการประมาทเลินเล่อ เช่น
นายแดงรู้ทราบว่ารถของตนเบรกไม่ดี แต่ก็ยังฝืนขับไป
และเกิดชนคนตายเพราะรถเบรกไม่อยู่ เป็นการกระทำโดยประมาทโดยรู้ตัว (recklessness)[5] เพราะรู้ถึงความบกพร่องของรถ แต่ยังฝืนใช้ไม่ซ่อมให้ดี
ตามกฎหมายคอมมอนลอว์ ถือว่ามีเจตนาร้าย (Mens Rea)
แต่ถ้าเป็นกรณีประมาทธรรมดาหรือประมาทเพราะความผลั้งเผลอ (negligence) เช่น ขับรถด้วยความเร็วเพราะรีบกลับบ้านจนถึงทางแยกเบรกไม่ทัน
ทำให้รถไปชนคนตาย เช่นนี้เป็นความประมาทธรรมดา (negligence)
ไม่ถือว่ามีเจตนาร้าย (mens rea)
1.2 โครงสร้างความรับผิดทางอาญาของซิวิลลอว์
(Civil Law)
ระบบกฎหมายซิวิลลอว์ (Civil Law system)
เป็นระบบกฎหมายที่ใช้กันในกลุ่มประเทศภาคพื้นยุโรป อาทิ เช่น ประเทศเยอรมัน
ฝรั่งเศส อิตาลี ซึ่งมีพื้นฐานทางกฎหมายมาจากกฎหมายในยุคอาณาจักรโรมันที่มีอิทธิพลในยุโรป
หลังอาณาจักรโรมันล่มสลาย กฎหมายของโรมันก็ถูกนำมาใช้ในประเทศต่าง ๆ
ที่เคยเป็นอาณานิคมและได้แยกเป็นอิสระนั้นด้วย
โดยการจัดทำประมวลกฎหมายเป็นของตนเอง ซึ่งเรียกกลุ่มประเทศที่ใช้กฎหมายลายลักษณ์อักษรนี้ว่า
กลุ่มประเทศระบบกฎหมายแบบซิวิลลอว์ (Civil Law)
สำหรับแนวความคิดของสำนักกฎหมายอาญาแบบซิวิลลอว์
เห็นว่ากฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการลงโทษการกระทำผิดของบุคคลในสังคม
จึงต้องพิจารณาถึงตัวผู้กระทำและการกระทำของบุคคลนั้นว่าเป็นการกระทำความผิดและสมควรถูกลงโทษตามกฎหมายหรือไม่
ซึ่งลำดับหรือโครงสร้างในการพิจารณาความรับผิดทางอาญาของกฎหมายอาญาซิวิลลอว์
ต้องพิจารณาตามขั้นตอนดังต่อไปนี้[6]
1)
พิจารณาว่าการกระทำของบุคคลนั้นครบตามองค์ประกอบของความผิดของความผิดฐานนั้นหรือไม่
2) พิจารณาว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมายหรือไม่
หรือเป็นความผิดกฎหมาย (Rechtswidrigkeit) เช่น
หากการกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายกฎหมายก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำความผิด
3) พิจารณาถึงความรู้ผิดชอบชั่วดี (Schuld) ของผู้กระทำว่าสมควรที่จะต้องรับโทษตามกฎหมายหรือไม่ เช่น
หากผู้กระทำความผิดเป็นเด็กซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีกฎหมายก็ยกเว้นโทษให้
เป็นต้น
เป็นเนื้อหาบางส่วนที่นำมาจากหนังสือคำอธิบายกฎหมายอาญาภาคทั่วไป หากต้องการอ่านทั้งหมดสามารถซื้อได้ตามลิ้งด้านล่างครับ
|
|
Casino Site in the UK | ᐈ Bonus, Codes & Free Spins
ตอบลบThe Casino Website offers all your favourite 제왕 카지노 games from your favourite casino 메리트 카지노 쿠폰 games and sportsbook 카지노사이트 providers for fun. Online Casino Review. Mobile.