บทที่ 1ความหมายและลักษณะสำคัญของกฎหมายอาญา
1. ความหมายของกฎหมายอาญา
กฎหมายอาญา (Criminal
Law) เป็นกฎหมายที่รัฐบัญญัติขึ้น
เพื่อกำหนดลักษณะของการกระทำที่ถือว่าเป็นความผิดและกำหนดบทลงโทษทางอาญาสำหรับความผิดนั้น
ดังนั้น กฎหมายอาญาจึงเป็นกฎหมายที่บัญญัติว่า
การกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดเป็นความผิด[1] ซึ่งความผิดอาญาส่วนใหญ่มีลักษณะที่มาจากศีลธรรม[2]
กฎหมายอาญาไม่ได้มีอยู่แต่เฉพาะประมวลกฎหมายอาญา (Criminal Code) เท่านั้น กฎหมายอื่นที่มีโทษทางอาญาก็ถือว่าเป็นกฎหมายอาญาเช่นเดียวกัน
เช่น พระราชบัญญัติอาวุธปืน พระราชบัญญัติจราจรทางบก พระราชบัญญัติการค้าประเวณี
ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษทางอาญา ดังนั้นจึงถือว่าเป็นกฎหมายอาญา
กฎหมายอาญานั้นเป็นกฎหมายมหาชนที่รัฐใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคมรวมถึงสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในสังคมนั้นด้วย
โดยใช้กลไกต่าง ๆ ของรัฐเพื่อลงโทษผู้กระทำฝ่าฝืนกฎหมายอาญาของรัฐ
ดังนั้นกฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่กระทบกระเทือนถึงเสรีภาพของบุคคล
จึงต้องมีการตรากฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้นซึ่งมีความชัดเจนแน่นอนเพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่าการกระทำเช่นไรเป็นความผิดและต้องถูกลงโทษหากมีการฝ่าฝืน
2. สาระสำคัญของกฎหมายอาญา
2.1 กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่รัฐบัญญัติขึ้น
กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่กำหนดให้บุคคลกระทำการใดหรือห้ามไม่ให้กระทำการใด
ซึ่งเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพของตนในสังคม
แต่กฎหมายอาญาก็เป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐที่จะใช้บังคับกับคน
สังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย อยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก
ดังนั้นแม้ว่ากฎหมายอาญาจะกระทบกระเทือนกับสิทธิเสรีภาพของตนในสังคมก็ตาม
แต่ก็จำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายอาญา
รัฐเป็นผู้ออกกฎหมายโดยผ่านกระบวนการออกกฎหมายของแต่ละรัฐ
2.2 กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่บัญญัติว่าการกระทำหรือไม่กระทำอย่างใดเป็นความผิด
กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นมาเพื่อควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคมในการปฏิบัติต่อกัน
และเป็นธรรมดาที่ในสังคมซึ่งมีผู้คนจำนวนมากนั้น
ผู้คนเหล่านั้นย่อมมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
บางคนอาจจะกระทำการอันไม่ถูกต้องจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายได้
ได้รับความเดือดร้อน รำคาญ ซึ่งอาจจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามหลักของศีลธรรม
ไม่ชอบตามจารีตประเพณี เช่น การทำร้ายร่างกาย ฆ่าผู้อื่น หรือกระทำต่อทรัพย์สิน
เช่น ลักทรัพย์ ฉ้อโกง
ดังนั้นรัฐจึงจำเป็นที่จะต้องกำหนดและประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าการกระทำอันไม่ชอบนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
และต้องได้รับโทษ
เพื่อให้คนในสังคมได้ทราบโดยทั่วกันว่าการกระทำนั้นเป็นการกระทำอันผิดกฎหมายและต้องได้รับโทษหากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม
แต่บางครั้งกฎหมายอาญาก็ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากหลักศีลธรรม
หรือจารีตประเพณี
แต่รัฐเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของคนในสังคมโดยแท้
ซึ่งเรียกว่าเป็นกฎหมายเทคนิค (technical
law) เช่น พระราชบัญญัติจราจรทางบก
2.3 กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่มีโทษกำหนดไว้
กฎหมายอาญามีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้มีความแตกต่างจากกฎหมายอื่นๆ
คือ หากผู้ใดก็ตามที่ฝ่าฝืนหรือกระทำการอันเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาแล้ว
ผู้นั้นจะต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายอาญาบัญญัติไว้ การลงโทษผู้กระทำความผิด
รัฐเท่านั้นจะเป็นผู้ลงโทษได้
ผู้เสียหายหรือผู้อื่นแม้จะรู้สึกโกรธแค้นหรือไม่พอใจต่อการกระทำความผิดนั้นอย่างไร
ก็จะลงโทษผู้กระทำผิดไม่ได้
เป็นเนื้อหาบางส่วนที่นำมาจากหนังสือคำอธิบายกฎหมายอาญาภาคทั่วไป หากต้องการอ่านทั้งหมดสามารถซื้อได้ตามลิ้งด้านล่างครับ
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น